หมอนิติเวช วิเคราะห์ปม ชายวัย 61 ตายแล้วฟื้น ญาติเชื่อปอบเข้าสิง

หมอนิติเวช วิเคราะห์กรณี ชายวัย 61 ตายแล้วฟื้น อยากกินลาบเลือด ญาติเชื่อผีปอบเข้าสิง คาดผู้ป่วยน่าจะมีอาการของ “โรคสมองจากโรคตับ” แนะนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษา มีรายงานว่า รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณี “ญาติเชื่อผีปอบเข้าสิง! ชายวัย 61 ตายแล้วฟื้น?” ผ่านแฟนเพจ หมอหมู วีระศักดิ์ โดยมีข้อความดังนี้

ข้อเท็จจริงจากเนื้อข่าว

1. ผู้ป่วยเป็นโรคตับ เมื่อช่วงปี 2561 แต่ก็สามารถทำงานได้ปกติไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา เริ่มมีอาการทรุดลง น้ำในกระเพาะออกมารูตามสะดือ ทำให้เดินไม่ได้ ขณะที่ผู้ป่วยพูดมาเพียงไม่กี่คำว่าเหนื่อย อยากจะนอน เมื่อถามว่าอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม บอกไม่อยากกิน อยากจะนอนอย่างเดียว

2. วันที่ 12 ธ.ค. 65 ผู้ป่วยเริ่มมีอาการอยากกินลาบเลือด

3. วันที่ 16 ธ.ค. 65 หลานไปดูหมอซึ่งเป็นร่างทรง บอกว่าผู้ป่วยมีอีกร่างแฝงอยู่และผู้ป่วย จะหมดอายุไขจริงๆ ในวันที่ 18 ธ.ค. 65

4. วันที่ 18 ธ.ค. 65 ลูกชายจับชีพจรผู้ป่วยพบว่าไม่เต้น และไม่หายใจ นอนแน่นิ่งไปเฉยๆ ผ่านไป 10 กว่านาที ลูกชายทั้ง 2 คน จึงเข้าไปกอดพ่อ ขอขมาพ่อ แต่จู่ๆ นายบัวสี ก็ฟื้นขึ้นมา แถมมีท่าทีแข็งแรงผิดไปจากเดิมที่ไม่มีเรี่ยวแรง ซึ่งทุกคนเชื่อว่าที่ นายบัวสี ฟื้นขึ้นมาไม่ใช่นายบัวสี แต่เป็นผีปอบผู้หญิงที่เข้ามาสิงร่างแทน

5. ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 65 เป็นต้นมา ผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ แปลกประหลาดไปจากเดิม คือ ช่วงกลางดึกของทุกวัน เวลาประมาณตี 1-2 จะลุกขึ้นบอกว่าหิว อยากจะกินลาบเลือด และต้องเป็นลาบเลือดสดๆ เท่านั้น ถ้าคืนไหนไม่ได้กิน ก็จะอาละวาด ด่าลูกและภรรยา

วิเคราะห์

1. จากข้อเท็จจริงจากเนื้อข่าวในข้อ 1) 2) 3): เชื่อว่าผู้ป่วยน่าจะมีอาการของ “โรคสมองจากโรคตับ” มาตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 65 โดยผู้ป่วยมีโรคประจำตัวเป็นโรคตับมาตั้งแต่ปี 61 ซึ่งคลาดว่าผู้ป่วยอาจเป็น “โรคตับอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส หรือไม่ก็ โรคตับแข็ง” มาก่อน เนื่องจากพบได้บ่อย (ต้องรอหมอเจ้าของไข้วินิจฉัยอีกครั้ง) และสุดท้ายส่งผลให้เกิด “โรคสมองจากโรคตับ”

2. จากข้อเท็จจริงจากเนื้อข่าวในข้อ 4): เชื่อว่าผู้ป่วยน่าจะมีอาการจากภาวะแทรกซ้อนของ “โรคสมองจากโรคตับ” ประกอบกับที่ผ่านมาผู้ป่วยรับประทานอาหารไม่ได้ ร่างกายอ่อนเพลีย ส่งผลให้ “น้ำตาลในเลือดต่ำ ความดันตก” ทำให้ผู้ป่วยมี “ชีพจรเต้นเบา และ หายใจเบา” จึงทำให้ลูกและภรรยาตรวจจับไม่ได้ และสงสัยว่าเสียชีวิต แต่เมื่อร่างกายได้ผ่านพ้นภาวะนั้นไปได้ (อาจจากการสัมผัส เขย่า ปลุกตื่น เป็นตัวกระตุ้น) จึงทำให้ “ผู้ป่วยฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง จนทำให้ญาติเข้าใจว่าตายแล้วฟื้น”

3. จากข้อเท็จจริงจากเนื้อข่าวในข้อ 5): เชื่อว่าอาการทั้งหมดของผู้ป่วยน่าจะเกิดจาก “โรคสมองจากโรคตับ (แต่ต้องรอหมอเจ้าของไข้ยืนยันอีกครั้งก่อนนะครับ) ไม่ใช่ เกิดจากผีปอบเข้าสิง”

โดยโรคสมองจากโรคตับ มีสาเหตุมาจากความเสียหายของตับ ส่งผลให้ตับไม่สามารถกำจัดสารพิษที่ได้รับจากภายนอก ทำให้สารพิษเหล่านี้สะสมในกระแสเลือดและเข้าไปสู่ระบบประสาทและสมองจนเกิดความเสียหายในที่สุด สาเหตุที่มักทำให้ตับเสียหายและเสี่ยงต่อ โรคสมองจากโรคตับ ได้แก่ ตับอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส และ โรคตับแข็งโดยผู้ป่วยจะมีอาการสับสน มึนงง วิตกกังวล ง่วงซึม อ่อนเพลีย มีปัญหาในการเรียบเรียงคำพูด และมักมีบุคลิกภาพที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงผู้ป่วยโรคสมองจากโรคตับ ที่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจมีอาการดีขึ้นได้ แต่หากได้รับการรักษาล่าช้าอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่อันตรายมากถึงขั้นเสียชีวิตได้ จึงอยากให้ญาติรีบนำตัวผู้ป่วยไปรักษาที่ รพ. อย่างเร่งด่วน เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีครับ.